ภูมิคุ้มกันบำบัด ด้วยเซลล์ T พิฆาต ต่างจาก ยาต้านไวรัส อย่างไร?
ภูมิคุ้มกันบำบัด ด้วยเซลล์ T พิฆาต ต่างจาก ยาต้านไวรัส อย่างไร?

ภูมิคุ้มกันบำบัด ด้วยเซลล์ T พิฆาต ต่างจาก ยาต้านไวรัส อย่างไร?

เมื่อไวรัสเข้าสู่ร่างกายมันจะเข้าไปฝังตัวอยู่ในเซลล์ของร่างกายหรือเซลล์ของเม็ดเลือดขาวแล้วก็ Copy ตัวมันเองเพิ่มจำนวนมากขึ้น มากขึ้น จนกระทั่งในที่สุดก็ทำลายเซลล์เม็ดนั้นแล้วไวรัสที่เพิ่มขี้นก็จะแตกออกจากเซลล์แล้วก็ไปฝังตัวอยู่ในเซลล์เม็ดเลือดขาวอื่นๆทำให้มีอาการลุกลามขี้นไปเรื่อยๆจนควบคุมไม่ได้

ปัจจุบันยาต้านไวรัสจะหยุดการ Copy ตัวมันเองของไวรัส แต่ไม่ได้ฆ่าไวรัส เพราะฉะนั้นเมื่อใช้แล้วก็ต้องใช้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ มิฉะนั้นแล้วไวรัสจะกลับมาเพิ่มจำนวนใหม่อย่างรวดเร็ว ถีงแม้ว่ายาต้านไวรัสจะมีผลข้างเคียงมากมายในระยะสั้นหรือระยะยาวก็ตามก็จำเป็นต้องใช้ต่อเนื่องไปตลอดชีวิต การติดเชื้อ HIV หรือไวรัสอื่นๆที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ได้มีการใช้ยาต้านไวรัสในการจัดการ แต่ในการจัดการนี้ก็อย่างที่ทราบกัน ไวรัสไม่ได้ถูกกำจัดจนหมด เมื่อมีการหยุดใช้ยาต้านไวรัสก่อนที่จัดการไวรัสจะหมดสิ้นไป ไวรัสก็จะกลับมาขยายตัวอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นอาการก็จะกลับมาเพิ่มขี้นใหม่และนั่นคือสาเหตุที่คนที่ติดเชื้อไวรัสแล้วกลับมาเป็นใหม่

ภูมิคุ้มกันบำบัดด้วย  Cell T พิฆาต ใช้วิธีการให้ Cell T พิฆาต ประชิดกับเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัส เจาะรูเข้าไปในเซลล์ที่ติดเชื้อนั้น แล้วก็พ่นสาร Granzymes ซึ่งสามารถย่อยสลายโปรตีนทำให้เซลล์ซึ่งเป็นโปรตีนและเชื้อไวรัสซึ่งก็เป็นโปรตีนเหมือนกันย่อยสลายไปพร้อมๆกัน

นั่นคือสาเหตุที่ภูมิคุ้มกันบำบัดด้วย  Cell T พิฆาต สามารถกำจัดเชื้อไวรัสจนหมดสิ้นไป ไม่เพียงแต่หยุดการแพร่หรือเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสเท่านั้น และแบบนี้เองที่ทำให้เป็นสาเหตุให้ภูมิคุ้มกันบำบัดด้วย  Cell T พิฆาต มีอนุภาคสามารถจัดการกับเซลล์ไวรัสได้ดีกว่ายาต้านไวรัสครับ

เพราะฉะนั้นเมื่อติดเชื้อไวรัสนะครับ ไม่ว่าเชื้ออะไรก็ตามอย่าได้กังวัลครับ เรามีเซลล์ภูมิคุ้มกันบำบัดด้วย  Cell T พิฆาต สามารถช่วยเราได้อย่างปลอดภัยและไร้ผลข้างเคียงครับ และผมก็เชื่อว่า ภูมิคุ้มกันบำบัดด้วย Cell T พิฆาตเนี่ย จะเป็นวิธีการที่ทำให้มนุษย์เรามีคุณภาพชีวิตที่ดี รอดพ้นจาการเสียชีวิตด้วยเชื้อไวรัสหรือการติดเชื้ออื่นๆทั่วๆไปครับ