อาการโรคเอดส์ระยะแรก
อาการโรคเอดส์ระยะแรก

อาการโรคเอดส์ระยะแรก

เมื่อเชื้อ HIV เข้าสู่ร่างกายแล้ว ยังไม่ได้หมายความว่าคนนั้นจะป็นเอสด์ในทันที ยังมีความแตกต่างของผู้ติดเชื้อ HIV และผู้ป่วย AIDS อยู่ ซึ่งผู้ที่จะเป็นโรคเอสด์นั้นจะอยู่ในระยะที่ภูมิคุ้มกันน้อยลงร่างกายเริ่มอ่อนแอมากขึ้นและมี CD4 ต่ำกว่า 200 หรือที่เรียกว่าเป็นระยะที่เริ่มเป็นผู้ป่วยเอดส์อาการเริ่มแรกจะเป็นยังไงบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

อาการที่จะเริ่มปรากฎอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายๆอย่างพร้อมกัน ซึ่งเกิดขึ้นเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ เช่น

• เจ็บคอ
• ต่อมน้ำเหลืองโตหลายแห่งติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 3 เดือน
• น้ำหนักตัวลดลงเร็วมากโดยไม่ทราบสาเหตุ

• มีฝ้าขาวในช่องปาก ที่ลิ้นและในลำคอ
• ติดเชื้อรายีสต์

• อุจจาระร่วงเรื้อรังเป็นเวลานานเกิน 1 เดือนโดยไม่ทราบสาเหตุ
• เป็นโรคอุ้งเชิงกรานอักเสบเรื้อรัง
• มีไข้เรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ

• มีเลือดออกจากปาก จมูก ทวารหนัก หรือช่องคลอด
• มีอาการโรคเริม (herpes simplex) ลุกลามและเรื้อรัง ผู้ป่วยในระยะที่ 2 นี้สามารถแพร่เชื้อสู่บุคคลอื่นได้ และผู้ป่วยบางส่วนจะมีอาการต่อในระยะที่ 3 ของโรคนี้ด้วย

หากพบว่ามีการติดเชื้อ HIV อย่าเพิ่งท้อไปค่ะ ทางคณะนักวิจัยของ APCO อยากแนะนำว่ายังมีทางที่ช่วยให้ CD4 เพิ่มขึ้นและทำให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงได้นะคะ โดยเริ่มได้จากการปรับพฤติกรรมไปทางสายเฮลตี้ให้มากขึ้น เช่น ออกกำลังกายเป็นประจำ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ก็พอที่จะช่วยให้มีคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมกันนะคะ