เมื่อเดือนมีนาคม 2019 ที่ผ่านมาหากติดตามข่าวตลอดจะเห็นว่า มีข่าวที่ดูน่าตื่นเต้นเรื่องมีผู้ป่วยHIV ที่เหมือนจะหายขาดได้แล้วเป็นคนที่2 ของโลก!!
ข่าวที่พาดหัวแบบนี้ทำให้เราว้าว กันได้เลยนะคะ เพราะสิ่งที่เราได้ยินกันมาตั้งแต่เด็กๆคือ เอดส์เป็นโรคร้ายที่รักษาไม่หายขาด เป็นแล้วต้องตายเท่านั้น
หรือใครเคยศึกษาเรื่องนี้มาบ้างก็จะทราบว่า โรคเอดส์นั้นมีวิธีรักษาแบบประคับประคองให้อยู่ได้ไปอีกหลายๆปีด้วยการใช้ยาต้านไวรัสที่จะไปกดไวรัสไม่ให้แพร่กระจายออกมาเท่านั้น นั่นหมายถึงถ้าเราหยุดกินยาต้านไวรัสจะแพร่กระจายทันทีแบบทวีคูณด้วย และผลข้างเคียงของยาต้านไวรัสมีเองก็เยอะมาก
จริงๆแล้วการเป็นโรคเอดส์กับการติดเชื้อเอชไอวี มีตัวแบ่งอาการของโรคคือปริมาณค่าCD4 ผู้ที่กินยาต้านไวรัสและมีCD4 สูงกว่า200จะอยู่ในระดับของผู้ติดเชื้อเอชไอวีเท่านั้นส่วน
ผู้ป่วยAIDSจะมีCD4 ต่ำกว่า200 ลงไป แล้วโรคเอดส์ที่ในข่าวพูดถึงว่ารักษาได้แล้วนั้นเป็นยังไงตามมาดูกันเลยค่ะ
ชายเยอรมันคนนี้ติดเชื้อเอชไอวีแล้วเป็นมะเร็งไขกระดูกด้วย ก่อนหน้านี้ก็ต้องกินยาต้านไวรัสมาเรื่อยๆ แต่เมื่อเค้าเป็นมะเร็งไขกระดูกร่วมด้วย การรักษาของหมอคือการปลูกถ่ายไขกระดูก แต่หลังการรักษามะเร็งด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูกนั้น เรื่องมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เมื่อหมอพบว่าเชื้อHIV ในกระแสเลือดของเค้าค่อยๆน้อยลงจนหายไปในที่สุดและเค้าก็มีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องกินยาต้านไวรัสมาตั้งแต่ปี2007 พูดง่ายๆคือ อยู่ได้แบบไม่กินยาต้านมาเป็นสิบปีแล้ว ทว่าเคสนี้ถือเป็นข้อยกเว้นทางการแพทย์เพราะยังไม่มีข้อสรุปได้ถึงสาเหตุที่HIVลดลง
และล่าสุดมีเคสคล้ายๆกันเกิดขึ้นที่อังกฤษ คือมีคนอังกฤษติดเชื้อHIV และเป็นมะเร็งไขกระดูกด้วย แล้วก็ต้องรักษาเหมือนกันคือ ปลูกถ่ายไขกระดูก และผลก็ออกมาเหมือนกันคือ กลายเป็นคนไม่มีเชื้อHIV หลังปลูกถ่ายไขกระดูกเสร็จ เรียกว่าเป็นคนที่2ของโลกที่เคยติดเชื้อHIVแล้วตอนนี้ไม่ต้องกินยาต้านเพราะเชื้อหายไปจากร่างกายหมดแล้ว
แม้ว่าการปลูกถ่ายไขกระดูกจะทำให้เชื้อHIVหายไปแล้ว2รายของโลก แต่นั้นไม่ใช่วิธีรักษาHIV/AIDS อย่างจริงจัง ข้อสังเกตที่น่าสนใจอยู่ที่ การปลูกถ่ายไขกระดูกเป็นการใส่กระดูกชุดใหม่เข้าไปซึ่งไขระดูกมีหน้าที่ผลิตเม็ดเลือดขาวอาจเป็นไปได้ว่าเม็ดเลือดขาวชุดใหม่แข็งแรงพอจะสู้เชื้อHIV ได้
ส่วนประเทศไทยนวัตกรรมแคปซูลAPCO cap ใช้วิธีกระตุ้นเม็ดเลือดขาวTh17 ซึ่งเป็นเหมือนทีมที่ถูกฝึกมาเพื่อทำลายเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายโดยเฉพาะเชื้อเอชไอวีจนกระทั่งค่าCD4พุ่งสูงขึ้น ซึ่งเห็นผลกับผู้ใช้มาแล้ว